เจาะหูให้ลูกน้อย

คุณพ่อคุณแม่บางคนให้ลูกเจาะหูตั้งแต่เป็นเบบี๋เลยเนื่องจากดูแลได้ง่าย แต่ถ้าไม่ได้เจาะตั้งแต่เป็นเบบี๋ เมื่อเด็กโตขึ้นก็อาจกลัวเจ็บได้ ซึ่งการเจาะหูจะได้เริ่มอีกทีก็ตอนที่ลูกเริ่มอยากใส่ต่างหูสวย ๆ ตามคุณแม่ ถ้าคุณพ่อคุณแม่ปรึกษากันแล้วลูกน่าจะยอมให้ความร่วมมือในการความสะอาดแผล ก็พาไปเจาะหูได้เลยค่ะ แนะนำให้เจาะช่วงปิดเทอมนะคะ จะได้ดูแลได้สะดวกค่ะ

เจาะหูอย่างไร

การเจาะหูในสมัยโบราณทำโดยใช้เข็มเย็บผ้าลนไฟ รอให้เย็นแล้วนำมาเจาะ ใช้แกนแข็ง ๆ ของกระเทียมใส่แทนต่างหู ปัจจุบันการเจาะหูที่นิยมมี 2 แบบคือ ใช้เครื่องยิงสำหรับเจาะ และใช้อุปกรณ์ที่สำหรับแทงน้ำเกลือเจาะค่ะ การเจาะโดยเครื่องยิงนั้น เมื่อไปที่โรงพยาบาลคุณหมอจะซักประวัติเรื่องการแพ้ ถ้าไม่มีประวัติแพ้ยาชา คุณพยาบาลจะแปะยาชาทิ้งไว้ประมาณ 50 นาที - 1 ชั่วโมง (ถ้าไปเจาะตามร้านทองหรือในห้าง ส่วนใหญ่จะใช้วิธีคลึงหูให้ชานะคะ) หลังจากนั้นจึงทำความสะอาดบริเวณที่จะเจาะหู และทำเครื่องหมายตำแหน่งที่เจาะ การเจาะทำได้ง่ายมากโดยวางอุปกรณ์ลงไปให้ตั้งฉากกับใบหูและก็ยิงค่ะ หลังยิงต่างหูจะไปติดกับใบหูเลย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นต่างหูที่ทำจากPolycarbonate Polymer ที่ไม่ทำให้แพ้ง่าย หรือ Allergy free วัสดุที่ใช้ทำต่างหูก็เป็นแบบเดียวกับที่ทำเข็มฉีดยา และไม่มีส่วนผสมของนิเกิล ส่วนการเจาะอีกวิธี คือ ใช้เข็มแทงน้ำเกลือหรือ IV Catheter แทงลงไปตรงหู แล้วดึงแกนด้านในออก ตัดปลายที่มองดูคล้ายพลาสติกใส ๆ ให้เหลือขนาดกำลังพอดี ซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัด ทำง่าย และเสียค่าใช้จ่ายน้อยมากค่ะ

ปัญหาที่พบได้หลังเจาะหู

การแพ้ต่างหูของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกันค่ะ ส่วนใหญ่จะแพ้นิกเกิลที่ผสมอยู่ในต่างหูตรงบริเวณที่เจาะหู เรียกว่า ผื่นแพ้สัมผัส (Contact dermatitis) ลักษณะผื่น คือ แดง แห้ง ลอก หรือเป็นตุ่มน้ำ ถ้าเกาอาจลามและมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย ส่วนต่างหูที่ทำจากทองส่วนใหญ่จะไม่ค่อยแพ้กันนะคะ แต่ถ้าเกิดการแพ้ก็มักเป็นเพราะนิกเกิลที่ผสมในทองเพื่อให้ต่างหูแข็งแรงมากขึ้นและทำเป็นลวยลายได้ง่าย ดังนั้นควรเลือกต่างหูทองที่มี K สูง ๆ ตัว Kย่อมาจาก Karat ซึ่งคือสัดส่วนของทองคำ ถ้ามีตัวน้อย เช่น 10 K หมายถึงมีสัดส่วนของโลหะอื่นที่ไม่ใช่ทองคำค่อนข้างเยอะ ซึ่งอาจแพ้ได้ง่าย แนะนำให้ใช้ Kที่เพิ่มขึ้น เช่น 18K ขึ้นไป หรือมีคำว่า Hypoallogenic ซึ่งเป็นต่างหูที่ผลิตพิเศษสำหรับเด็ก ๆ ที่แพ้ง่าย

อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดอาจทำให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนตามมาได้ แนะนำให้ทำความสะอาดใบหูด้วยแอลกอฮอล์ก่อน ส่วนต่างหูที่ใช้ควรผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้วและเก็บในห่อที่ปลอดเชื้อ อุปกรณ์ที่ใช้เจาะ กรณีเป็นเข็มหรือที่เรียกว่าIV Catheters ควรเป็นเข็มใหม่ หรือหากเป็นเครื่องยิง ควรหลีกเลี่ยงปืนรุ่นเก่า เพราะบางส่วนของปืนจะสัมผัสกับหู ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือโรคเอดส์ ซึ่งเป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการใช้เข็มร่วมกันหรือติดต่อจากเลือดบริเวณผิวหนังที่บาดแผลได้ ปืนที่ใช้เจาะควรเป็นปืนรุ่นใหม่ซึ่งไม่สัมผัสโดยตรงกับใบหู และผ่านการฆ่าเชื้อ sterilization แล้ว บุคลากรที่เจาะหูก็ควรสวมถุงมือปลอดเชื้อ เหมือนกับถุงมือที่คุณหมอใช้ผ่าตัดในโรงพยาบาลค่ะ

หลังเจาะควรทำความสะอาดใบหูด้วยแอลกอฮอล์วันละ 2 ครั้ง หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อยืดที่คอแคบ เพราะอาจทำให้เกี่ยวกับใบหูขณะถอดเสื้อ หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงทับใบหูนาน ๆ หากมีความผิดปกติ บวม แดง หรือคัน ควรรีบไปพบแพทย์ ถ้าดูแลอย่างดีก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการเกิดแผลคีลอยด์ตามมานะคะ.


Previous
Previous

การดูแลแผลเมื่อน้ำท่วม

Next
Next

ปกป้องผิวจากภัยน้ำท่วม