อาการผิวแพ้เครื่องประดับ รักษา อย่างไร

อาการแพ้ของคนเราเกิดได้จากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก จากภายนอกโดยทั่วไป คือ ผื่นการแพ้จากการสัมผัส (Allergic contact dermatitis) ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายมีขบวนการในการจดจำสิ่งที่เป็นศัตรู โดยผ่านทางระบบภูมิคุ้มกันอันแสนซับซ้อนของมนุษย์ เกิดขึ้นได้กับสารมากมายอย่างคาดไม่ถึง เป็นลักษณะจำเพาะบุคคลที่เดาไม่ได้ และผู้ป่วยไม่จำเป็นต้อง
มีความผิดปกติทางกรรมพันธุ์เกี่ยวกับโรคภูมิแพ้มาก่อน การแพ้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคน ๆ นั้นเคยสัมผัสกับสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ (Allergen) มาก่อนอย่างน้อยหนึ่งครั้ง แล้วร่างกายสร้างภูมิต้านทานขึ้นมา เมื่อสัมผัสซ้ำอีกครั้ง ก็จะทำให้เกิดอาการแพ้ ซึ่งการสัมผัส
ครั้งแรกกับครั้งหลัง อาจมีระยะห่างกันเป็นวัน เป็นเดือน หรือเป็นปีก็ได้ อาการคือ มีผื่นแดงในบริเวณที่มีการสัมผัสกับสารนั้น ๆ 
แต่ก็อาจลามไปในบริเวณอื่นได้เช่นเดียวกัน

การแพ้เครื่องประดับ เกิดจากแพ้โลหะ เช่น นิกเกิล โครเมียม โคบอลด์ เงิน ปรอท ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะแพ้นิกเกิลกันครับ นิกเกิลเป็นโลหะที่ราคาไม่สูง และใช้เป็นส่วนประกอบของสิ่งที่เราคุ้นเคยกันหลายอย่าง เช่น สแตนเลสสตีล อัลลอยด์ แม่เหล็ก เหรียญกษาปณ์ เคลือบโลหะเพื่อกันสนิม และผสมในเครื่องประดับต่าง ๆ เพื่อให้คงรูปอยู่ได้ เช่น ตุ้มหู สายสร้อย บอดี้จิวเวอรี่ สายนาฬิกา ด้านหลังหน้าปัดนาฬิกา กระดุมโลหะ หัวเข็มขัด กรอบแว่น ปากกา กุญแจ เป็นต้น

การแพ้นิกเกิลเกิดจากการที่ร่างกายขับของเหลวและแอนติบอดี้มายังบริเวณจุดที่สัมผัส และทำปฏิกิริยากับนิกเกิลที่เคลือบบนเครื่องประดับ ทำให้นิกเกิลละลายออกมา ผิวหนังจึงอักเสบ อาการแพ้นั้นมักจะเกิดขึ้น 6 – 48 ชั่วโมงหลังจากการสัมผัส แต่ละครั้งอาจมีอาการยาวนานได้ตั้งแต่ 2 – 4 สัปดาห์ อาการคือ คัน มีรอยแดง เป็นผื่น บวม บางคนอาจมีตุ่มน้ำใส ถ้าเป็นมาก ๆ อาจลุกลามไปทั่วตัว หรือกลายเป็นตุ่มพองใหญ่ เมื่อผื่นแตก ก็จะมีน้ำเหลืองไหล และมีสะเก็ดขึ้นเกรอะกรัง หลังจากแผลแห้งผิวหนังอาจจะหนาขึ้น หรือมีสีดำคล้ำ เป็นรอยด่าง หรือเป็นแผลเป็นได้ อาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้หากมีการเกา โดยทั่วไปอาการแพ้จะเกิดบริเวณที่สัมผัสกับเครื่องประดับนั้น เช่น แพ้นิกเกิลในต่างหูก็จะมีรอยแดงหรือผื่นที่ติ่งหู แพ้นาฬิกาก็จะมีผื่นแดงบริเวณข้อมือ บางคนอาจมีผื่นขึ้นที่ตาเพราะมือไปสัมผัสนิกเกิลแล้วไปโดนตา และเหงื่อจะทำให้อาการแพ้แย่กว่าเดิม เพราะเหงื่อจะทำให้ผิวดูดซึมนิกเกิลได้มากขึ้น จึงไม่ควรใส่เครื่องประดับเมื่อเล่นกีฬา

หากเกิดผื่นแพ้นิกเกิลแล้ว ไม่ควรไปแคะ แกะ เกา ควรล้างแผลด้วยน้ำเกลือ อย่าอาบน้ำร้อน ๆ และใช้สบู่อ่อนที่ปลอดน้ำหอมเพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้น หลีกเลี่ยงการสัมผัสแอลกอฮอล์หรือผงซักฟอกบริเวณที่มีการแพ้ แพทย์อาจให้ทาครีมสเตอรอยด์ เช่น ครีมคโลเบทาโซล (Clobetasol) หรือครีมบีตาเมทาโซน (Betamethasone) หรืออาจกินยาแก้แพ้ เช่น แฟ็กโซเฟนาดีน (Fexofenadine) หรือเซติไรซิน (Cetirizine) ถ้ามีหนองหรือน้ำเหลืองไหล อาจให้ยาปฏิชีวนะรับประทานคู่กันไปด้วย

การป้องกันการแพ้เครื่องประดับนิกเกิลทำได้ง่ายมาก โดยการงดสวมใส่เครื่องประดับที่สงสัยว่าจะแพ้ครับ หากไม่แน่ใจว่าแพ้หรือไม่ สามารถทำ Patch Test หรือการทำการทดสอบผื่นสัมผัส โดยใช้สารที่สงสัยว่าก่อให้เกิดการแพ้มาแปะติดด้านหลัง ไม่น่ากลัวและไม่มีเลือดออกนะครับ หากผลการทดสอบยืนยันว่าแพ้โลหะนิกเกิลจริง ก็ควรงดการใช้เครื่องประดับที่มีนิกเกิล หรืออาจใช้เครื่องประดับที่ทำจากโลหะอื่นแทน เช่น แพลตตินัม ไททาเนียม สแตนเลส หรือวัสดุอื่น ๆ เช่น หนัง พลาสติกไทกอน (Tygon) แก้วไพเร็ก (Pyrex) โดยเลือกซื้อเครื่องประดับสำหรับผู้ที่แพ้ง่าย (Hypo-allergenic)

เพื่อสุขภาพผิวที่ดี ควรหมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังคุณเป็นประจำ หากเกิดการแพ้เครื่องประดับให้รีบถอดออก ไม่ต้องไปเสียดายของหรอกครับ สุขภาพต้องมาก่อน

Previous
Previous

ผิวหนังอักเสบจากแมลงปีกแข็ง

Next
Next

โรคของหนังศรีษะและเส้นผมที่พบบ่อย