Narrowband UVB (NB-UVB)

การรักษาโรคด่างขาว

ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจดูลักษณะของรอยโรค เพราะในบางจุดที่คนไข้มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แพทย์สามารถใช้ไฟทางการแพทย์ (Wood lamp) ส่องดู ซึ่งหากพบจะได้รักษาอาการได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยมีวิธีการรักษาเพื่อกระตุ้นเม็ดสีกลับคืนมา ดังนี้

  • ยาทาเฉพาะที่ เช่น Corticosteroid, Tacrolimus และ Vitamin D Analogue กรณีที่เป็น อาจใช้เพียงยาทาอย่างเดียวได้

  • การฉายแสงอัลตราไวโอเลต (UV) Full Body ด้วยเครื่อง Full Body Phototherapy narrow band 311 nm. จะใช้เมื่อรอยด่างขาวเป็นบริเวณกว้าง ผลการรักษาจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งรอยโรค จำเป็นต้องรักษาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ถ้าเป็นมากอาจต้องรักษาร่วมยาทา

  • การปลูกถ่ายเม็ดสี โดยนำเอาผิวหนังบริเวณที่มีสีผิวปกติมาผ่านในกระบวนการสกัดแยกเซลล์ในห้องปฏิบัติการเฉพาะทาง เพื่อสกัดเอาเซลล์สีผิวไปปลูกถ่ายบริเวณที่เป็นรอยด่าง  ซึ่งใช้ในกรณีที่รอยด่างขาวไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาและการฉายแสง

  • การใช้เลเซอร์ เช่น Excimer light 309 nm. ใช้ในบริเวณเล็กๆ เพื่อกระตุ้นเซลล์เม็ดสี ซึ่งต้องทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ต่อเนื่อง 24- 48 ครั้ง และรักษาร่วมกับยาทาเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

  • ในรายที่ลามไปทั้งตัว เหลือบริเวณผิวปกติน้อยอาจใช้วิธีฟอกสีผิวตรงตำแหน่งผิวปกติ เพื่อให้สีผิวขาวเท่าๆกับรอยโรค โดยใช้สารที่มีฤทธิ์ขัดขวางการสร้างสีผิว ทำให้สีผิวจางลงไม่เห็นเป็นรอยด่างดำ  

Narrowband UVB (Narrowband Ultraviolet B) therapy is a specialized treatment used primarily for various skin conditions, including psoriasis, eczema, and vitiligo. This phototherapy utilizes a specific wavelength of light, usually around 311-313 nanometers, which has been shown to be effective in targeting skin cells that contribute to these diseases.

The treatment works by suppressing the immune response in the skin, reducing inflammation, and slowing down the rapid growth of skin cells typical in conditions like psoriasis. Unlike broad-spectrum UVB light, narrowband UVB therapy minimizes exposure to unwanted longer wavelengths, which can cause skin damage and increase the risk of skin cancer.

Sessions typically occur two to three times a week, with a dermatologist carefully monitoring the patient's response to the treatment. Results often become noticeable within several weeks of initiating therapy, with many patients experiencing significant improvements.

Patients undergoing narrowband UVB therapy should adhere to protective measures to shield their eyes from light exposure and follow pre-treatment and post-treatment skincare guidelines provided by their dermatologist. This therapy offers a safe and effective option for those struggling with chronic skin issues, allowing for targeted relief and improved quality of life. Regular follow-ups are essential to assess progress and make any necessary adjustments to the treatment plan.

Narrowband UVB (NB-UVB) ถือเป็นรูปแบบเฉพาะของการบำบัดด้วยแสงที่นำมาใช้บ่อยในงานรักษาโรคผิวหนังหลายประเภท โดยเฉพาะโรคสะเก็ดเงิน, โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) และโรค vitiligo วิธีการรักษานี้เกี่ยวข้องกับการใช้คลื่นความถี่ของแสงอัลตราไวโอเลตที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจง โดยทั่วไปอยู่ในช่วง 311 ถึง 313 นาโนเมตร ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีอันตรายน้อยกว่าการใช้แสงอัลตราไวโอเลตแบบกว้าง วิธีการทำงานหลักของ NB-UVB คือการลดการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันภายในผิวหนัง ซึ่งช่วยบรรเทาอาการอักเสบและชะลอการผลิตเซลล์ผิวที่มากเกินไปซึ่งมีลักษณะเฉพาะของปัญหาโรคผิวหนังหลายอย่าง

การบำบัด NB-UVB มักจะถูกดำเนินการในสภาพแวดล้อมคลินิกที่มีการควบคุม ช่วยให้การส่งมอบการรักษาเป็นไปอย่างแม่นยำเพื่อให้มั่นใจถึงผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในขณะที่ลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น การนัดหมายสำหรับการรักษามักจะเกิดขึ้น 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสภาพทางการแพทย์ของแต่ละบุคคลรวมถึงการตอบสนองที่สังเกตเห็นระหว่างกระบวนการรักษา ระยะเวลาของแต่ละเซสชันอาจแตกต่างกันไป ตั้งแต่ไม่กี่วินาทีถึงหลายนาที ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทผิวของผู้ป่วย ความรุนแรงของปัญหาที่กำลังรักษา และสถานะการตอบสนองต่อการเปิดเผยต่อแสง UV ในอดีต

ในขณะที่ผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัด NB-UVB อาจประสบพบกับผลข้างเคียงบางประการ เช่น การมีอาการแดงเล็กน้อยหรืออาการคล้ายกับการถูกแดดเผาในบริเวณที่มีการรักษา ควรทราบว่าผลกระทบเหล่านี้มักจะเป็นเรื่องชั่วคราว ผลข้างเคียงในระยะยาวนั้นนับว่าน้อย แต่มีความเป็นไปได้ที่จะมีความเสี่ยงเล็กน้อยในการพัฒนาโรคมะเร็งผิวหนัง ซึ่งทำให้การตรวจสอบและติดตามผลอย่างสม่ำเสมอเป็นเรื่องสำคัญ

สรุปได้ว่า การบำบัดด้วยแสง UVB เฉพาะเจาะจงทางแคบเป็นตัวเลือกการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเพื่อจัดการกับปัญหาโรคผิวหนังหลากหลายประเภท โดยเฉพาะเมื่อดำเนินการภายใต้การดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับประกันทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผู้ป่วย

Previous
Previous

Compare skin test (เปรียบเทียบการตรวจวิธีต่างๆ)

Next
Next

IG E Blood Test