ระงับกลิ่นเหงื่อ

เหงื่อเป็นหนึ่งในวิธีขับของเสียของร่างกายมนุษย์ เหงื่อของแต่ละคนจะมากน้อยต่างกันก็ขึ้นอยู่กับลักษณะทางพันธุกรรม โรคประจำตัว กิจกรรมที่ทำ สภาพอารมณ์ และสภาพสิ่งแวดล้อม โดยลำพังตัวเหงื่อแล้ว ไม่มีกลิ่นเหม็นหรือเป็นอันตรายกับผิวของเราแต่อย่างใดค่ะ

กลิ่นเฉพาะตัวกับกลิ่นตัวไม่เหมือนกันนะคะ กลิ่นเฉพาะตัวนั้น เกิดจากการที่เหงื่อมีส่วนประกอบของฮอร์โมนที่ร่างกายผลิต โดยเฉพาะฟีโรโมน ซึ่งจะติดอยู่ตามผิวหนังและเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ ทำให้แต่ละคนมีกลิ่นเฉพาะตัวค่ะ ส่วนกลิ่นตัวที่เกิดนั้นมาจากการหมักหมมของเหงื่อ อย่าลืมนะคะว่าเหงื่อมีของเสียที่ร่างกายขับออกมา มีทั้งไขมัน โปรตีน และแป้งท่ีร่างกายขับออกมาจากอาหารที่เรากินนั้น หากไม่ได้รับการชำระล้างก็จะเกิดปฏิกิริยากับเชื้อแบคทีเรียซึ่งมีอยู่ทั่วไปในอากาศและบนผิวหนัง ทำให้เกิดกลิ่นขึ้นได้ค่ะ ยิ่งถ้าเป็นเหงื่อที่ออกบริเวณที่มีเส้นขนขึ้นเยอะ ๆ ก็ยิ่งทำให้เกิดความอับชื้นได้มากขึ้น กลิ่นจึงยิ่งรุนแรงขึ้น ดังนั้นเหงื่อที่ออกมาแต่ละที่ อาจเกิดกลิ่นได้มากน้อยต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นกับตำแหน่งของต่อมเหงื่อที่ผลิตเหงื่อนั้นด้วยค่ะ คือ

  • เหงื่อที่ผลิตจากต่อมเหงื่อEccrine (Eccrine Sweat Glands) เป็นต่อมเหงื่อที่มีอยู่ทั่วร่างกาย คือ ผิวหนัง ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เริ่มผลิตเหงื่อตั้งแต่เราเกิดเลยค่ะ ลักษณะจะใส ไม่มีกลิ่น โดยต่อมเหงื่อEccrine จะขับเหงื่อออกมามากเมื่อเรามีกิจกรรมหรืออากศร้อน

  • เหงื่อที่ผลิตจากต่อมเหงื่อ Apocrine (Apocrine Sweat Glands) เป็นต่อมเหงื่อที่มีอยู่บางส่วนร่างกาย ช่น รักแร้ ขาหนีบ ทวารหนัก หัวหน่าว ก้น หรือแผ่นหลัง ซึ่งจะเริ่มทำงานเมื่ออย่างเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ เหงื่อที่ผลิตจากต่อมนี้มีสีใส แต่เหนียวกว่าเพราะมีส่วนผสมของไขมันมาก จึงทำให้มีกลิ่นได้ และเป็นจุดที่มักมีการหมักหมมเกิดเป็นกลิ่นไม่พึงประสงค์ จึงควรรักษาความสะอาดเป็นพิเศษค่ะ

กำจัดกลิ่นเหงื่ออย่างไร

การที่เหงื่อออกมาก ทำให้โอกาสในการเกิดหมักหมมจนเกิดกลิ่นก็มากขึ้น ซึ่งหากไม่มีการติดเชื้อก็จะแค่ส่งกลิ่นอย่างเดียว ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายโดยรวมแต่อย่างไร การกำจัดกลิ่นเหงื่อ นิยมทำโดยป้องกันการเกิดเหตุ คือ การลดการหลั่งของเหงื่อ จึงมักมีการผสมสารลดการหลั่งของเหงื่อ (antiperspirants) ลงในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ซึ่งหากกังวลว่าจะแพ้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้น อาจเลือกใช้สารส้ม หรืออะลูมิเนียมซัลเฟต (aluminium sulfate) ทาบริเวณจุดอับ ซึ่งจะช่วยยับยั้งการออกของเหงื่อได้โดยไม่เข้าไปอุดตันรูขุมขน จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้

การกำจัดขน โดยเฉพาะขนรักแร้สามารถช่วยลดการเกิดกลิ่นตัวลงได้บ้าง เพราะขนที่ยาวจะกักเก็บเหงื่อไคลและแบคทีเรียไว้ได้มากกว่า ทำให้เกิดการหมักหมมได้ง่ายกว่ามากค่ะ บางคนอาจเลือกใช้สบู่ที่ช่วยกำจัดแบคทีเรีย ซึ่งก็มีส่วนช่วยได้บ้างแต่อาจไม่เห็นผลได้นาน โดยเฉพาะในคนที่มีเหงื่อออกมาก ๆ

ปัจจุบันมีวิธีการหนึ่งที่ยับยั้งเหงื่อได้ดี คือ การฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซินเพื่อใช้ลดเหงื่อเฉพาะที่ เช่นบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า โดยสารนี้จะเข้าไปลดการทำงานของต่อมเหงื่อ และกล้ามเนื้อบริเวณต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อลดลงหรืออาจแทบจะไม่มีเลยเป็นการชั่วคราว ประมาณ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แม้จะได้ผลดีจริง แต่ก็เจ็บเล็กน้อย มีค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร และไม่เหมาะกับคนที่กลัวเข็มค่ะ

การรักษาความสะอาดของร่างกายควรทำอย่างเหมาะสม การอาบน้ำบ่อยเกินไปก็เป็นการทำร้ายผิว ทำให้ผิวแห้ง อ่อนแอ และอาจระคายเคืองจนเกิดผื่นคันได้นะคะ.

Previous
Previous

กำจัดขนใต้วงแขนเพื่อความมั่นใจ

Next
Next

ผื่นคันที่จุดซ่อนเร้น