สิวอุดตัน
สิวอุดตัน (Comedone) แบ่งเป็น 2 ชนิด
ชนิดแรก สิวหัวเปิดหรือสิวหัวดำ ซึ่งเราสามารถรักษาโดยการกดสิวอุดตันออกมาได้ (Comedome Extraction)
ชนิดที่สองสิวหัวปิดหรือสิวหัวขาว ซึ่งไม่สามารถกดออกได้ ต้องใช้เลเซอร์ทำการเจาะสิวให้เป็นรูเปิดเล็กๆจากนั้นจึงกดเม็ดอุดตันออก วิธีการนี้ปลอดภัยสามารถช่วยเสริมการรักษาสิวให้หายได้รวดเร็วขึ้น
การรักษาสิวอุดตัน
1.การรักษาโดยการใช้ยาทาทาสิวอุดตัน ให้ผลในการละลายสิวอุดตัน
2.การรักษาโดยการใช้ยารับประทานกลุ่ม ช่วยลดปัญหาผิวมัน และละลายสิวอุดตันได้ดี ทั้งที่ใบหน้าและสิวตามลำตัว
3.การกดสิวอุดตัน สามารถรักษาได้เฉพาะกลุ่มสิวอุดตันหัวเปิด (สิวหัวดำ) เพราะจะหลุดออกได้ง่าย และควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็นภายหลัง
4. การรักษาสิวอุดตันด้วยเลเซอร์ เหมาะสำหรับสิวอุดตันที่ฝังลึกและมีจำนวนมาก เลเซอร์จะช่วยในการเปิดรูต่อมไขมันที่อุดตัน เหมาะกับผู้ที่มีสิวอุดตันจำนวนมาก ต้องการผลรวดเร็ว และต้องการลดโอกาสของเแผลเป็น หลังการทำใบหน้าจะมีรอยแดงนิดหน่อยจากการเจาะและกดสิวซึ่งรอยแดงจะหายไปในเวลาไม่นาน
การรักษาสิวอุดตันนั้นมีความจำเป็น สิวอุดตันถ้าไม่รักษาจะเปลี่ยนเป็นสิวอักเสบ
เปรียบเทียบสิวอุดตันเหมือนระเบิดเวลา รอจุดชนวนเพื่อเปลี่ยนเป็นสิวอักเสบ ยิ่งมีสิวอุดตันมากก็เป็นสิวอักเสบมากตามไปด้วย ในกรณีที่เป็นสิวอุดตันไม่มาก อาจรักษาโดยการกดสิวเพื่อกำจัดหัวสิว แต่ในกรณีที่เกิดสิวอุดตันเป็นจำนวนมาก การรักษาสิวโดยเลเซอร์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งนอกจากการกดสิว ได้ผลอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย เหมาะสำหรับการรักษาสิวอุดตันที่มีจำนวนมากและอยู่ลึก การรักษาโดยวิธีนี้จะดีกว่าการกดสิวปกติ
สิวอักเสบ (Inflammatory acne หรือ Papulopustular acne )
สิวอักเสบคือการที่สิวอุดตันที่ได้รับการติดเชื้อแบคทีเรียกลุ่ม Propionibacterium acne ( P.acne) แล้วแบคทีเรียชนิดนี้จะปล่อยเอนไซม์ที่จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ โดยมีความรุนแรงแตกต่างกัน แล้วแต่จำนวนเชื้อและขนาดของสิวที่อุดตัน ผู้ที่มีปัญหาผิวมันมักเกิดสิวอักเสบบ่อยและมากกว่าผิวธรรมดาทั่วไป
สาเหตุการเกิดสิวอักเสบ
1. ความเครียด ความวิตกกังวลทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันทำให้เกิดสิวได้
2.แสงแดด ช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันให้ทำงานมากขึ้น เกิดการแบ่งเซลล์ที่ต่อมไขมันมากกว่าปกติ ก็ทำให้เกิดสิวได้
3.อาหารทะเลที่มีธาตุไอโอดีน (iodine) เช่น สาหร่ายทะเล และวิตามินบางอย่าง เช่น วิตามินอี วิตามินบี 12 ก็ทำให้เกิดสิวได้
4.กิจวัตรประจำวัน เช่น การนอนดึก ทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อร่างกาย ทำให้เกิดสิว นอกจากนี้อาการท้องผูกก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวได้ เพราะอาหารที่ค้างอยู่ในท้องเป็นของเสียที่ร่างกาย ไม่ต้องการ ทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดสิวได้
5.การล้างหน้ามากเกินไปหรือบ่อยๆ จะทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น ผลิตไขมันมากจนผิดปกติ ทำให้เกิดการอุดตันของไขมันกลายเป็นสิวได้
6.สารเคมีในสบู่บางชนิดเป็นสบู่ที่ผสมกำมะถันและสารเฮกซาคลอโรฟิน (hexaclorrofin) อาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดสิวได้
7. สารสเตียรอยด์ (steroid) ทั้งชนิดทาและชนิดรับประทาน ก็มีส่วนกระตุ้นให้เกิดสิวได้ด้วยเช่นกัน
8. ฮอร์โมนแอนโดรเจน (androgen hormone) ที่กระตุ้นการสร้างไขมันมาก จะเกิดการอุดตันของรูขุมขน จึงทำให้เกิดเป็นสิวได้ง่าย
ประเภทของสิวอักเสบ
· สิวนูนแดง (Papule)
· สิวหัวหนอง ( Pustule)
· สิวหัวช้าง (acne conglobata)
· สิวซีสต์ (acne cyst)
· สิวตุ่มนูนหนอง (Papulopustular acne)
การรักษาสิวอักเสบ
สิวอักเสบนั้นสามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยา ทายา ในกรณีที่สิวอักเสบมากต้องฉีดยาเพื่อลดอาการอักเสบของสิว ปัจจุบันมีนวัตกรรมเลเซอร์เพื่อรักษาสิวอักเสบ โดยยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน ลดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการอักเสบ ทำให้สิวหายเร็วขึ้น ป้องกันการเกิดสิว ลดการเกิดแผลเป็นที่เกิดจากสิว
ไม่เกิดการระคายเคือง ไม่เกิดแผลหลังทำการรักษา