เตรียมผิวใสรับปีใหม่

เตรียมตัวให้พร้อมกับคริสต์มาสและปีใหม่ที่จะมาถึง อย่าปล่อยให้ความเหนื่อยล้าจากปีที่กำลังจะหมดไปมาทำให้เราดูโทรมได้เป็นอันขาด มาดูวิธีเตรียมผิวให้สดใสเพื่อรับปีใหม่ดีกว่าครับ

นอนหลับพักผ่อนผิว

หาเวลางีบหลับสักนิดก่อนไปงานสัก 2 – 3 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน รับรองปาร์ตี้ได้ถึงเช้าแน่ แต่ข้อควรระวังก็คือ ควรตื่นก่อนเวลาไปงานอย่างน้อย 2 ชั่วโมง มิฉะนั้นหน้าอาจจะบวมเป่งเป็นลูกบอลลูนได้ สาเหตุที่หน้าบวม ไม่ใช้เพราะร่างกายไม่ได้ขับน้ำออกในระหว่างนอน เลยบวมน้ำอย่างที่เข้าใจกันหรอก แต่เกิดจากแรงดึงดูดของโลกต่างหาก ภายใต้ผิวหนังของคนเรา มีของเหลวทั้งเลือดและน้ำไหลเวียนอยู่ ถ้าเรานอนอยู่ในแนวระนาบไปกับพื้น แรงดึงดูดของโลก ก็จะดูดของเหลวเหล่านั้นลงมา ทำให้ของเหลวไหลเวียนมาอยู่บริเวณใบหน้ามาก ผิวหน้าก็จะดูบวมตึงขึ้นมาได้ ถ้าเราลุกขึ้นนั่ง ยืน หรือเดินสัก 2 – 3 ชั่วโมง แรงดึงดูดก็จะดูดให้ของเหลวกระจายลงไปยังส่วนอื่นของร่างกาย เหมือนที่เท้าเรามักจะบวมกว่าในตอนเย็นมากกว่าตอนเช้าๆ เวลานอนลองนอนแบบ 45 องศาหรือกึ่งนั่งกึ่งนอนดู ก็พอจะช่วยได้ครับ

หลีกเลี่ยงน้ำร้อนจัด

ถ้ารู้ตัวว่าต้องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ควรหลีกเลี่ยงการอาบนำ้ร้อนจัดหรือการเข้าซาวน์น่าก่อนไปงานนะครับ ความร้อนจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น ถ้ายิ่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปอีก ก็อาจเป็นอันตรายทำให้เกิดอาการเหมือนเป็นลมแดดได้ การอาบน้ำร้อนจัดหรือการเข้าซาวน์น่าไม่ได้ทำให้ผอมลง แต่ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ จึงควรดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ สำหรับคนที่หน้ามัน ให้ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น นอกจากจะทำให้รู้สึกสดชื่นดีแล้ว ยังทำให้ต่อมไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังทำงานน้อยลงด้วย เพราะผิวหนังของคนเราจะขับไขมันออกมามากขึ้นเมื่ออากาศร้อนขึ้น ซึ่งเป็นกลไกเพื่อการปกป้องผิวตามธรรมชาติ

ดูแลผิวหน้า

ควรหลีกเลี่ยงการขัดที่ผิวหน้าหากเป็นสิว การขัดผิวไม่ได้ทำให้สิวที่ปูดออกมาเรียบหรือเล็กลงไปกว่าเดิม แต่ในทางกลับกัน ยิ่งทำให้สิวอักเสบและเป็นมากกว่าเดิมต่างหาก บางคนอาจดูหน้าตาสดใสหลังจากการสครับหน้าใหม่ๆ แต่อีก 1 สัปดาห์ให้หลังอาจเกิดสิวขึ้นเต็มหน้าได้ ทั้งนี้เพราะฮอร์โมนในร่างกายทำให้ผิวของผู้ชายเป็นสิวได้ง่ายกว่าของผู้หญิง หากอยากมีผิวหน้าขาวใสก่อนไปงาน ลองมาส์คหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่คุ้นเคยและรู้แน่ว่าไม่แพ้ หรือจะไปทำทรีทเมนต์หน้าใสก็ยิ่งดี การบำรุงผิวประเภทนี้ให้ผลดีมากโดยเฉพาะ 8-12 ชั่วโมงหลังจากการทำครับ

ดูแลผิวกาย

การขัดผิวหรือสครับผิวที่ตัวนั้นโดยทั่วไปมักไม่ค่อยมีปํญหาอะไร อาจใช้ใยบวบมาขัดผิว ซึ่งหลังจากใช้ก็ควรล้างให้สะอาด แล้วผึ่งไว้ในที่แห้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อรา ส่วนพวกสครับขัดผิวต่างๆ ลองเลือกใช้กลิ่นสดชื่นแบบที่ชอบ ก็จะทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นได้ แล้วก็อย่าลืมล้างออกให้สะอาดทุกซอกทุกมุมด้วยเพื่อไม่ให้ระคายเคืองผิว ส่วนการนวดน้ำมันนั้น หลังนวด ควรเช็ดตัว หรือล้างนำ้มันออกให้สะอาด เพราะอาจทำให้ผิวมันเกิน

ควร หรือเลอะเสื้อผ้าทำให้เสียบุคลิกได้ ควรนวดและขัดผิวอย่างเบามือนะครับ

การโกนหนวด

หนวดของผู้ชายทั่วไปที่มีฮอร์โมนปกติจะยาวขึ้นประมาณ 1 มิลลิเมตรต่อวัน หนวดจะมีสีเข้มกว่าผิว ดังนั้น หนุ่มที่นิยมลุคแบบใสๆ ลองโกนหนวดก่อนไปงานดู จะช่วยให้ใบหน้าดูขาวสดใสขึ้นได้ การโกนหนวดด้วยเครื่องโกนหนวดไฟฟ้าแบบปกติก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่ต้องระมัดระวังการโกนหนวดด้วยใบมีดกันสักหน่อย โดยเฉพาะถ้าเส้นขนยังสั้นอยู่มาก เพราะอาจทำให้ ใบมีดระคายเคืองผิวหรือบาดผิวเวลาโกนได้ ควรทำความสะอาดมีดโกนหลังใช้ ผึ่งไว้ให้แห้ง และหมั่นเปลี่ยนใบมีดบ่อยๆ เพื่อความคมของใบมีด อย่าลืมใช้อาฟเตอร์เชฟหลังการโกนหนวด นอกจากจะช่วยเพิ่มเสน่ห์แล้ว ยังช่วยฆ่าเชื้อที่บาดแผลที่เกิดจากการโกนหนวดได้ด้วย

บำรุงผิว

ครีมทาผิวกายนั้น ไม่ค่อยสร้างความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเท่าไหร่ แต่ครีมทาผิวหน้าควรเลือกให้เหมาะกับประเภทของผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือว่าผิวแพ้ง่าย นอกจากนี้ ยังต้องเลือกครีมให้เหมาะสมกับกาล ควรแบ่งมอยส์เจอร์ไรซ์เซอร์ออกเป็นเดย์ครีมเพื่อใช้ตอนกลางวัน และไนท์ครีมเพื่อใช้ตอนกลางคืน เดย์ครีมนั้นจะมีความเข้มข้นน้อยกว่า บางแบรนด์อาจผสมสารควบคุมความมัน หรือพวกสารกันแดดไว้ด้วย ส่วนไนท์ครีมจะมีความเข้มข้นมากกว่า เพราะในเวลากลางคืนร่างกายไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรมาก และไม่ต้องกังวลเรื่องหน้ามันแล้วจะไม่หล่อ จึงสามารถใช้มอยส์เจอร์ไรซ์เซอร์ที่มีความเข้มข้นสูงเพื่อการบำรุงผิวอย่างล้ำลึกได้ อย่างไรก็ตาม การออกไปงานปาร์ตี้แม้เป็นเวลากลางคืนก็ใช่ว่าจะต้องใช้ไนท์ครีม ให้ใช้เดย์ครีมแทนดีกว่า และหากงานที่คุณจะไปต้องอยู่โอเพนแอร์ กลางแจ้ง หรือแดนซ์กระจาย ก็ควรใช้มอยส์เจอร์ไรซ์เซอร์ที่มีความเบาบางอย่างโลชั่น ที่สำคัญ อย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดก่อนนอนด้วยนะครับ

ระงับกลิ่นกาย

ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายหรือ Deodorant ช่วยลดแบคทีเรียในเหงื่อซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นตัว แต่ไม่ได้ลดเหงื่อที่ออกมา ดังนั้น หากจะไปปาร์ตี้ที่ต้องมีเหงื่อออกมากๆ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่มีสารระงับเหงื่อ หรือ Antiperspirant การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ผสม Antiperspirant นั้น จะเริ่มมีผลในการระงับเหงื่อหลังจากใช้ไปประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะ Antiperspirant จะไปลดการทำงานของต่อมเหงื่อใต้ผิวหนังของเรา โดยการปิดกั้นรูขุมขนที่เหงื่อออกมา และกลไกเหล่านี้ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร สำหรับหนุ่มที่กังวลเรื่องสีผิวใต้วงแขน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่บอกว่าเป็น Whitening เพราะ Deodorant ทั่วไปที่ไม่เป็น Whitening จะมีส่วนประกอบบางอย่างที่ระงับเหงื่อได้ดีกว่ามาก แต่ก็ทำให้สีผิวคล้ำขึ้นได้มากเช่นกัน จึงควรเลือกดูให้เหมาะกับความต้องการ อย่าลืมว่าผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเหล่านี้ มีจุดประสงค์หลักเพื่อใช้ใต้วงแขน เพราะต่อมเหงื่อของคนเราจะมีมากที่มือ เท้า และรักแร้ ถ้าไปใช้กับส่วนอื่นของร่างกาย อาจไม่ได้ผล และจะทำให้เสื้อผ้าเลอะเป็นคราบน่ารังเกียจอีกด้วย

Previous
Previous

จะพาลูกไปยิงเลเซอร์ได้เมื่อไหร่

Next
Next

Peeling Hands and Feet in Children(มือเท้าลอกในเด็ก)