TATTOO(รอยสัก)

24%ของชาวอเมริกัน อายุ 18-50 ปีล้วนมีรอยสักบนร่างกาย และ1ใน 4 ของคนกลุ่มนี้มีรอยสักมากกว่า 1 แห่งพบมากเท่าๆกันทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

อุบัติการนี้พบในประเทศไทยเช่นกัน มีความนิยมในการสักบนร่างกายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกปีการสักแบ่งเป็น 2 แบบ ตามลักษณะของเครื่องมือที่ใช้

Amateur Tattoo มักใช้เข็มสักธรรมดา ทำให้เม็ดสีลงไม่ลึกมาก และมักใช้สีดำ Carbon-Based, India Ink

Professional Tattoo ใช้เครื่องในการสัก จะทำให้เม็ดสีลงได้ลึกมากกถึงชั้นล่างของหนังแท้และมักใช้สีหลากหลายชนิดตั้งแต่

สีแดง มาจาก Mercuric Sulfide, Cadmium Selenide

สีเขียว มาจาก Chromium Oxide

สีฟ้า มาจาก Cobalt Aluminium Oxide

สีเหลือง มาจาก Cadmium Sulfide

สีดำ มาจาก Ferrous Oxide

สีขาว มาจาก Zinc Oxide

สีม่วง มาจาก Manganese

ดังนั้น การลบรอยสักที่มาจาก Professional Tattoo จึงทำได้ยากกว่าและใช้เวลาในการรักษามากกว่า แต่เดิมการลบรอยสักทำได้ยาก และมักเกิดแผลเป็น แต่ปัจจุบันด้วยนวัตกรรมของ Laser ทำให้การลบรอยสักไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และยังไม่เกิดแผลเป็นหลังจากการรักษาอีกด้วย

Q-Switched Nd:YAG สามารถลบรอยสัก สีดำ, น้ำเงินแดง, ส้ม, ม่วง

Q-Switched Ruby สามารถลบรอยสักสีดำ, น้ำเงิน, เขียว

Q-Switched Alexandrite สามารถลบรอยสักสำดำ, น้ำเงิน, เขียว

Laser เหล่านี้มีคุณสมบัติพิเศษ ที่เฉพาะเจาะจงในการทำลายเม็ดสีโดยเกิดอันตรายต่อผิวหนังปกติบริเวณรอบ ๆ น้อยมาก ดังนั้น จึงเป็นการลบรอยสักได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ทิ้งร่องรอยหลังการรักษา

Previous
Previous

Scarlet fever(ไข้อีดำอีแดง)

Next
Next

CO2 LASER