แผลคีลอยด์กวนใจ มีอาการอย่างไร?

การ ป้องกันแผลคีลอยด์ นั้นเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นที่อาจรบกวนความสวยงามหรือสร้างความไม่สบายตัว โดยสามารถปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านี้เพื่อป้องกันการเกิดคีลอยด์:  

1. หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่ผิวหนัง  

การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เช่น การตัด, การเผาไหม้ หรือการผ่าตัด อาจทำให้แผลเป็นคีลอยด์ขึ้นได้ ดังนั้นหากมีการบาดเจ็บ ควรรักษาแผลให้สะอาดและถูกต้อง  

2. ดูแลแผลให้ดี  

หากมีการผ่าตัดหรือการบาดเจ็บบนผิวหนัง ควรทำความสะอาดและปิดแผลให้ดี โดยเฉพาะในช่วงที่แผลยังใหม่ๆ การไม่ทำแผลให้สะอาดอาจทำให้แผลเป็นใหญ่ขึ้น  

3. หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด  

ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงบนแผล เนื่องจากแสงแดดอาจทำให้แผลกลายเป็นสีคล้ำ หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดคีลอยด์ โดยเฉพาะในช่วงที่แผลยังไม่หาย  

4. ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแผลเป็น  

มีผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่สามารถช่วยลดการเกิดแผลคีลอยด์ เช่น เจลซิลิโคน หรือ แผ่นแปะซิลิโคน ที่ช่วยลดการก่อตัวของคีลอยด์และทำให้แผลนุ่มขึ้น  

5. การบำรุงผิวหลังการผ่าตัด  

หลังจากการผ่าตัดหรือการบาดเจ็บ ควรให้ความสำคัญกับการใช้ครีมบำรุงผิวที่ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามิน E หรือ เจลซิลิโคน ที่ช่วยลดการสร้างเนื้อเยื่อแผลเป็น  

6. การรักษาแผลเป็นทันที  

หากพบว่าแผลที่เกิดขึ้นเริ่มมีลักษณะเป็นก้อนนูนหรือมีการขยายขนาด ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาเร็วที่สุด เช่น การฉีดยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ หรือการรักษาด้วยเลเซอร์ จะช่วยลดขนาดและการเจริญเติบโตของแผลคีลอยด์  

7. หลีกเลี่ยงการขีดข่วนหรือถูแผล  

การขีดข่วนหรือการถูแผลสามารถกระตุ้นให้แผลเป็นคีลอยด์ได้เร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการทำเช่นนั้นโดยเด็ดขาด  

การป้องกันแผลคีลอยด์ในระยะยาวต้องมีการดูแลและใส่ใจทุกขั้นตอน โดยเฉพาะหากมีประวัติการเกิดแผลคีลอยด์บ่อยครั้ง หรือเคยมีแผลเป็นในอดีต การตรวจเช็คและปรึกษาแพทย์อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงให้เกิดแผลคีลอยด์ได้มากขึ้นค่ะ  

Previous
Previous

Patch test(การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง)

Next
Next

ควรดูแลอย่างไรหลังรักษาฝ้า