ไม่อยากผมพังฟังทางนี้ กับทริคดีๆ ที่ช่วยให้ผมสวยสตรอง

ฝันร้ายหลังการทำสีผม คือสภาพผมแห้งเสีย แตกปลาย ไร้ชีวิตชีวา แทนที่จะได้เฉิดฉายกับผมสีใหม่กลับขาดความมั่นใจยิ่งกว่าเดิม หากปล่อยไว้นานผมเสียจะยิ่งลุกลามใหญ่โตจนต้องโกนผมทิ้ง คิดแล้วอยากจะร้องไห้ แต่ก็อย่าเพิ่งถอดใจไป เพราะยังมีวิธีกู้ผมเสียให้กลับมาสวยได้อยู่ เพียงแค่ต้องใช้เวลาสักเล็กน้อย

สารเคมี ตัวร้ายทำลายเส้นผม

เมื่อสารเคมีเข้าไปทำปฏิกิริยากับเส้นผม ทำให้โครงสร้างชั้นผมถูกทำลาย ซึ่งโครงสร้างชั้นผมประกอบด้วย 3 ส่วนด้วยกัน คือ เปลือกชั้นนอกสุด (Cuticle) เรียงตัวกันคล้ายกระเบื้องหลังคาบ้าน ทำหน้าที่ปกป้องชั้นผมด้านใน เปลือกชั้นที่สอง (Cortex) ประกอบด้วยเส้นใยเคอราติน เชื่อมต่อกันด้วยพันธะไดซัลไฟด์ และส่วนสุดท้ายคือ แกนกลางด้านใน (Medulla) ทำหน้าที่ให้ความแข็งแรงกับเส้นผม

การกัดสีหรือย้อมสีผม จะทำให้ Cuticle และ Cortex ถูกทำลาย ผมจึงมีลักษณะเป็นเกล็ดหนามๆ แทงขึ้นมา ผมจะแห้งเสีย แตกปลาย ส่วนการดัดผมะทำให้สารเคมีเข้าไปทำลายพันธะซัลไฟด์ใน Cortex และ Medulla สังเกตได้จากคนที่ดัดผมแล้วไม่ดูแลให้ดี ผมจะช็อต ดูไม่เป็นทรง

กันไว้ดีกว่าแก้ ปกป้องผมไม่ให้ถูกทำลาย

1.กันแดดให้ผม

ขนาดผิวเรายังทนความร้อนจากแสงแดดไม่ได้ นับประสาอะไรกับเส้นผม โดยเฉพาะแดดเมืองไทยที่ความร้อนมีพลังทำลายล้างสูงมาก จึงควรปกป้องเส้นผมจากรังสียูวีด้วยการสวมหมวกหรือกางร่มเมื่อออกไปเผชิญแสงแดดที่จ้องทำร้ายผมให้แห้งเสีย เปราะบาง

2.พักการใช้ความร้อนกับเส้นผม

ทั้งการใช้ไดร์เป่าผมเป็นประจำทุกวันและการทำเคมีกับเส้นผม ควรจำกัดการใช้ความร้อนกับเส้นผมให้น้อยลง หรือใช้ไดร์ที่ให้ลมเย็นแทนลมร้อน รวมถึงการย้อมผม กัดสีผม หากไม่อยากละทิ้งความเป็นผู้นำเทรนด์สีผม ควรเว้นการย้อมผมหรือกัดสีผมประมาณ 1 เดือนครึ่งถึง 3 เดือน หากอยากเติมสีที่โคนผมก็ให้เติมเฉพาะบริเวณโคนผมโดยไม่ต้องย้อมใหม่ทั้งหมด

3.บำรุงผมแบบครบองค์

ข้อนี้สำคัญมาก เพราะผมจะไร้ชีวิตชีวาหากขาดการบำรุงอย่างสม่ำเสมอ เริ่มจากการทำแฮร์มาสค์เดือนละ 2 ครั้ง มองหาวัตถุดิบง่ายๆ จำพวกสมุนไพรที่หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต อย่าง น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก และน้ำผึ้ง นำมาผสมให้เข้ากันแล้วหมักผมทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที

Previous
Previous

เลเซอร์ ทางเลือกใหม่กับการแก้ปัญหารอยดำ

Next
Next

ผมร่วงไม่ใช่ปัญหา ถ้าดูแลอย่างถูกวิธี