แพ้อาหาร อันตรายกว่าที่คิด
“แพ้อาหาร” อันตรายกว่าที่คุณคิด 🚨
อาการแพ้อาหารไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อย เพราะบางครั้งอาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้! ถ้าไม่ระวังและดูแลตัวเองให้ดีตั้งแต่เริ่มต้น วันนี้เรามาดูกันว่าแพ้อาหารมีสัญญาณและอาการอย่างไรบ้าง ที่จะช่วยให้คุณสามารถรับมือได้ทันท่วงที
สัญญาณและอาการของการแพ้อาหาร
อาการแพ้อาหารจะปรากฏภายในไม่กี่นาทีหลังจากรับประทานอาหารที่ก่อให้เกิดการแพ้ โดยอาจเกิดขึ้นใน 1 หรือหลายระบบของร่างกายพร้อมกัน ดังนี้:
อาการทางผิวหนัง
ผื่นคัน, ผื่นลมพิษ
ผิวแดงทั้งตัว
ปากบวม, ตาบวม, หน้าบวม
อาการทางระบบทางเดินหายใจ
คัดจมูก, น้ำมูกไหล
เสียงแหบ, ไอมาก
แน่นหน้าอก, หายใจเสียงวี้ด, หายใจไม่ออก
อาการทางระบบไหลเวียนโลหิตและหัวใจ
ใจสั่น, หน้ามืด, วิงเวียนศีรษะ
เจ็บแน่นหน้าอก, ความดันโลหิตตก
อาจรุนแรงถึงขั้นหัวใจหยุดเต้นหรือเสียชีวิตได้
อาการทางระบบทางเดินอาหาร
คลื่นไส้, อาเจียน
ปวดท้อง, ท้องเสีย
อาหารที่มักทำให้เกิดอาการแพ้
บางคนอาจแพ้อาหารชนิดต่างๆ ได้ง่าย ซึ่งอาหารเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอาการแพ้:
อาหารทะเล เช่น กุ้ง, ปู, หอย
ผลิตภัณฑ์จากแป้งสาลี เช่น ขนมปัง, พาสต้า, เบเกอรี่
ถั่ว เช่น ถั่วลิสง, ถั่วอัลมอนด์
ไข่
วิธีการจัดการเมื่อเกิดอาการแพ้
หากคุณเกิดอาการแพ้จากการรับประทานอาหาร ควรปฏิบัติดังนี้:
ตั้งสติ - หลีกเลี่ยงการ panicking เพราะอาการแพ้บางชนิดอาจไม่รุนแรงแต่ก็ต้องระมัดระวัง
ขอความช่วยเหลือ - แจ้งคนรอบข้างหรือผู้ที่อยู่ใกล้ตัวทันที
สังเกตความรุนแรง - ถ้าอาการเริ่มรุนแรง เช่น หายใจไม่ออก, แน่นหน้าอก หรือมีอาการวิงเวียนศีรษะมากขึ้น ต้องรีบหามความช่วยเหลือทางการแพทย์
พบแพทย์ทันที - หากอาการไม่ดีขึ้นหรือเกิดอาการแพ้รุนแรง, รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาให้เร็วที่สุด
คำแนะนำเพิ่มเติม
หากคุณเคยมีอาการแพ้จากอาหารมาก่อน ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านั้นอย่างเคร่งครัด
ควรพกยาต้านฮีสตามีน (Antihistamines) หรือ Epinephrine (ถ้ามีการแพ้อาหารอย่างรุนแรง) ไว้ในกรณีฉุกเฉิน
การติดตามอาการแพ้อาหารด้วยการทดสอบทางการแพทย์ เช่น Skin Test หรือ Blood Test สามารถช่วยให้คุณทราบถึงสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้
อาการแพ้อาหารสามารถควบคุมได้ ถ้าเรารู้จักการสังเกตและปฏิบัติตัวอย่างถูกวิธีค่ะ

