ฝ้าฮอร์โมน
ฝ้าฮอร์โมน: ปัญหาผิวที่สาวๆ ต้องรู้จัก
ฝ้าฮอร์โมนเป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อยในผู้หญิง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากการมีระดับฮอร์โมนเพศหญิง (Estrogen) ที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ ส่งผลให้การผลิตเม็ดสี (Melanin) เกิดขึ้นมากเกินไป ทำให้เกิดฝ้าในบริเวณที่ผิวหนังมีการกระตุ้นจากฮอร์โมน
สาเหตุของฝ้าฮอร์โมน
การรับประทานยาคุมกำเนิด
การใช้ยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเพศหญิง (Estrogen) มักเป็นปัจจัยที่ทำให้ฝ้าฮอร์โมนเกิดขึ้น เพราะยาคุมจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในร่างกาย ส่งผลให้ผิวผลิตเม็ดสีมากเกินไปช่วงตั้งครรภ์
ในช่วงตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมน Estrogen และ Progesterone จะสูงขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้ผิวหนังผลิตเม็ดสีผิดปกติ ทำให้เกิดฝ้า (หรือที่เรียกว่า "หน้าท้องคล้ำ" ในบางกรณี)ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล
การที่ฮอร์โมนในร่างกายมีความไม่สมดุล หรือระดับฮอร์โมนเพศหญิงสูงขึ้น อาจทำให้เกิดฝ้าฮอร์โมนขึ้นได้ เช่น ภาวะที่เกี่ยวกับมดลูกหรือการใช้ยาฮอร์โมนต่าง ๆ
ลักษณะของฝ้าฮอร์โมน
ฝ้าฮอร์โมนมักจะปรากฏเป็นจุดหรือแผ่นสีน้ำตาลหรือดำ บริเวณที่ได้รับการกระตุ้นจากแสงแดด เช่น หน้าผาก, แก้ม, จมูก หรือริมฝีปาก มักจะเป็นฝ้าที่เกิดขึ้นโดยไม่มีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คัน หรือแสบ แต่อาจจะทำให้รู้สึกกังวลเกี่ยวกับความสวยงาม
การป้องกันและการรักษาฝ้าฮอร์โมน
หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด
การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง และการปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อไม่ให้ฝ้าฮอร์โมนมีการกระตุ้นให้เข้มขึ้นการใช้ครีมลดเลือนฝ้า
ครีมที่มีสารสกัดจากวิตามินซี, กรดอัลฟา-ไฮดรอกซี (AHAs) หรือสารไวท์เทนนิ่งที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสี จะช่วยทำให้ฝ้าจางลงการปรึกษาแพทย์
หากฝ้าฮอร์โมนไม่ดีขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ หรือมีอาการที่รุนแรงขึ้น ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสม เช่น การรักษาด้วยเลเซอร์หรือการทานยาบางชนิดที่ช่วยควบคุมฮอร์โมน
ในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน เช่น การตั้งครรภ์หรือการใช้ยาคุมกำเนิด อาจทำให้ฝ้าฮอร์โมนเกิดขึ้นหรือเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้น การดูแลผิวให้ดีและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและลดการเกิดฝ้าอย่างได้ผลค่ะ
หากคุณมีอาการฝ้าฮอร์โมนที่รุนแรงหรือไม่หาย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาอย่างถูกต้องค่ะ

