หลายคนอาจเริ่มกังวลเมื่อมี “กระ” ขึ้นตามใบหน้าหรือผิวกาย
หลายคนอาจเริ่มกังวลเมื่อมี “กระ” ขึ้นตามใบหน้าหรือผิวกาย บ้างก็กังวลว่าจะเป็นริ้วรอยแห่งวัยบ้างก็กังวลว่าเพราะแสงแดดทำร้าย แท้ที่จริงแล้วกระไม่ได้เกิดจากวัยหรือแสงแดดเพียงอย่างเดียว
กระสามารถแบ่งออกง่ายๆ เป็น 2 ประเภท คือ กระสี และกระเนื้อ
1.กระสี คือกระที่แบน จับแล้วไม่รู้สึกว่านูนออกมาโดยทั่วไปไม่มีอันตรายใดๆ แต่อาจทำให้ผิวพรรณหมองคล้ำไม่สดใส
หากไม่แน่ใจว่ากระของคุณเป็นแค่กระหรืออาจเกี่ยวข้องกับโรคบางอย่าง ควรปรึกษาแพทย์ ส่วนการป้องกันกระสี ทำได้โดยการหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยเฉพาะในช่วง 10.00-16.00 น. และสิ่งที่สำคัญที่ต้องทำเป็นเป็นประจำทุกวันคือ ทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป
กระสีแบ่งออกเป็น กระตื้น และกระลึก กระตื้นจะมีเม็ดสีเมลานินอยู่ไม่ลึก อยู่ตามปลายร่างแหของเมลาโนไซต์เห็นเป็นจุดสีน้ำตาลอยู่ตามผิว ส่วนกระลึกนั้นเมลานินจะมีอยู่ลึกและมากขึ้นในชั้นหนังกำพร้าส่วนล่างที่ติด
กับชั้นหนังแท้ มองเห็นอยู่ลึกๆ มีสีออกเทาๆ หรือน้ำตาลอมน้ำเงิน
กระตื้น แบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ
- กระที่พบในเด็กและคนที่โดนแดดกระ(Freckles) ทางแพทย์เรียกกันว่า Ephelides โดยทั่วไปจะมีสีน้ำตาลเหมือนกัน แม้สีอาจมีความแตกต่างได้บ้าง มีลักษณะเป็นจุดกลมขนาดเล็กเท่าหัวตะปู มักพบในคนผิวขาว
- กระแดดที่เป็นจุดด่างดำซึ่งแสดงถึงความสูงวัยกระแดด หรือ Solar Lentigo เป็นกระที่พบบ่อยในผู้ใหญ่เกิดจากการผลิตเม็ดสีมากกว่าปกติ แต่จะแตกต่างจากกระแบบแรกตรงที่สีไม่จางลง กระแดดมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อนแดง หรือดำ มักอยู่บริเวณที่สัมผัสแสงแดด เช่น หน้าผากใบหน้า ไหล่ แขน มือ หรือหากศีรษะล้านก็อาจมีขึ้นที่ หนังศีรษะด้วย
กระลึก
คนเอเชียผิวเหลืองกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ จะมีกระชนิดนี้โดยเฉพาะในผู้หญิง โดยมีลักษณะเป็นจุดหรือแผ่นสีเทา สีน้ำตาลอมน้ำเงิน มักพบบริเวณโหนกแก้ม ดั้งจมูกและบริเวณขมับทั้งสองข้าง สามารถพบได้ตั้งแต่แรกเกิดแต่มักจะสังเกตเห็นตอนอายุขึ้นในช่วงวัย 15-30 ปี
2.กระเนื้อ เกิดจากการเจริญเติบโตมากผิดปกติของผิวในชั้นหนังกำพร้า แสงแดด และอายุที่เพิ่มมากขึ้นมีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีน้ำตาลหรือดำ รือต่อมไร้ท่อ โรคเบาหวาน หรือโรคอ้วน กระชนิดนี้บางทีอาจมีลักษณะคล้ายโรคอื่น เช่น หูด หรือมะเร็งผิวหนัง ดังนั้นหากสังเกตว่ากระโตเร็ว มีสีดำเข้ม หรือมีเลือดออก ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังทันที