สับปะรด หรือ มะละกอ
วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของผลไม้ 2 ชนิดนะครับ ที่มีความอร่อย และสดชื่นเมื่อได้รับประทาน นั้นก็คือสับปะรด และ มะละกอ เรามาทราบประโยชน์ของแต่ละอย่างกันครับ เริ่มที่ “สับปะรด” สารอาหารที่อยู่ในสับปะรดมีประโยชน์เป็นจำนวนมาก และมีคุณค่าทางยาสูง มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหารจำพวกเนื้อเสริมการดูดซึมอาหาร ดับร้อนแก้กระหายสับปะรดยังมีสารจำพวกน้ำตาล กรดวิตามินอยู่หลายชนิด การรับประทานสับปะรดเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคไตอักเสบ ความดันโลหิตสูง หลอดลมอักเสบ สับปะรดมีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย เพราะมีเกลือแร่ วิตามินต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเราไม่น้อย น้ำสับปะรดเอาไปแช่เนื้อทำให้เนื้อนุ่มได้ด้วย ไม่ทำให้เปื่อยยุ่ยทำให้นุ่มกำลังดี ช่วยย่อยอาหารได้ ในสับปะรดมีเอนไซม์ตามธรรมชาติที่มีชื่อว่า โบรมีเลน ที่สามารถช่วยย่อยอาหารได้ทั้งในสภาวะเป็นกรดและด่าง จึงเหมาะมากที่จะพาไปช่วยย่อยในกระเพาะซึ่งเป็นกรด ก่อนจะตามไปย่อยต่อในลำไส้เล็กซึ่งเป็นด่างครับ
ส่วน “มะละกอ” สุกมีวิตามินเอ และวิตามินในปริมาณสูง มะละกอที่เนื้อสีแดงจะมีวิตามินซีสูงกว่าสีเหลืองในมะละกอสุกยังพบวิตามินบี 1 บี 2 เกลือแร่ชนิดต่างๆโดยเฉพาะแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็กและน้ำตาลกลูโค ฟรักโทส และ เพกติน ( Pectin) ดังนั้นการบริโภคมะละกอสุกก็จะได้คุณค่าสารอาหารดังที่กล่าวมาแล้ว และยังได้กากใยซึ่งช่วยในการขับถ่าย มะละกอสุกนั้นอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidant) ได้แก่ แคโรทีน วิตามินซี สารฟลาโวนอยด์ สารโฟเลต กรดแพนโทเทนิก ธาตุโพแทส แมกนีเซียม และเส้นใยอาหาร สารอาหารเหล่านี้บำรุงสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด และป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่อีกด้วย สีแดงอมส้มที่พบในมะละกอสุกนั้น แสดงว่ามะละกอมีสารไลโคฟีน ซึ่งเป็นสารช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วยนอกจากกินเป็นผลไม้ได้อร่อยแล้ว ยังนำไปทำเป็นน้ำมะละกอ หรือชามะละกอได้ น้ำมะละกอสุกช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยการทำงานของลำไส้ ทำความสะอาดไตและยังเป็นยาระบายอ่อนๆ อย่างดีอีกด้วย ส่วนชามะละกอดิบช่วยล้างระบบดูดซึมสารอาหารคือ ล้างคราบไขมันที่ผนังลำไส้ซึ่งเกาะตัวที่ผนังลำไส้ ที่ขัดขวางการดูดซึมอาหารและวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดด้วยครับ หลังจากที่ทราบประโยชน์ของผลไม้อร่อย 2 ชนิดนี้แล้ว ก็คงอยากจะทานกันแล้วใช่ไหมครับ เย็นนี้ลองหามารับประทานกันดูนะครับ จะเลือกรับประทานอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งคู่เลยก็ได้ เพราะมีประโยชน์ทั้งคู่ และทำให้ผิวพรรณสดใสด้วยนะครับ
