Tinea versicolor(เกลื้อน)

เกลื้อนเกิดจากอะไร?
เกลื้อนเกิดจากเชื้อราสายพันธุ์มาลาสซีเซีย (Malassezia) ปกติเป็นเชื้อราที่อยู่บนผิวหนังชั้นนอกของเราอยู่แล้ว โดยไม่ทำให้เกิดโรค แต่เมื่อมีปัจจัยกระตุ้นทำให้เปลี่ยนรูป จึงทำให้เป็นโรคเกลื้อนขึ้นมา มักเกิดในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก แต่ไม่ใช่โรคที่ติดต่อกันได้ง่าย เพราะคนที่จะเป็นเกลื้อน มักเกิดจากตนเองที่สร้างเหตุให้เชื้อราปกติ กลายเป็นก่อโรคได้

กลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นเกลื้อน

1.พบได้บ่อยในวัยรุ่น เพราะเป็นวัยที่ต่อมไขมันทำงานมาก และมีระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง

2.ผู้ที่มีอัตราการหลุดลอกออกของผิวหนังช้ากว่าปกติ หรือผู้ที่มีผิวมันจะมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าคนทั่วไป

3.ผู้ที่มีเหงื่อออกมาก อยู่ในสถานที่ที่ร้อน อบอ้าว ที่ทำงานกลางแดด ทำงานแบกหาม นักกีฬาหรือผุ้ที่ใส่เสื้อผ้าที่อัพเหงื่อเป็นเวลานานเป็นต้น

4.ขาดสารอาหารบางชนิด ที่จะทำให้กลไกด้านภูมิคุ้มกันไม่สมบูรณ์

5.ผู้ที่เป็นภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น โรคเอดส์ รับประทานยาบางชนิดเป็นระยะเวลานาน เช่น ยาต้านแบคทีเรีย รวมถึงสเตียรอยด์

6.มีภาวะอื่นๆ เช่น ภาวะความเครียด ภาวะโลหิตจาง เป็นวัณโรค และการตั้งครรภ์ เป็นต้น

อาการของเกลื้อน

มีผื่นขึ้นกระจายอยู่ในบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก มักพบขึ้นบริเวณแผ่นหลังและหน้าอก มีบ้างที่พบขึ้นบริเวณลำคอ หน้าท้อง และต้นแขน แต่มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่พบขึ้นที่บริเวณใบหน้า

ผู้ป่วยบางคนจะไม่มีอาการคัน ยกเว้นในบางครั้งที่มีเหงื่อออกมากซึ่งอาจทำให้รู้สึกคันได้เล็กน้อยพอแค่พอทำให้รำคญ

ลักษณะของเกลื้อน

ลักษณะจะเป็นผื่นวงกลม หรือวงรี ทั้งขนาดเล็กหรือใหญ่ โดยขึ้นแยกจากกันหรือติดกัน มีสีที่แตกต่างในแต่ละคน ตั้งแต่สีขาว สีชมพู สีน้ำตาลอ่อน ไปจนถึงสีน้ำตาลอมแดง จึงมักทำให้ผิวหนังมีสีซีดจาง หรือสีเข้มกว่า สีผิวปกติข้างเคียง (Hyperpigmentation) มีลักษณะแบนราบขอบชัด และผิวสัมผัสไม่เรียบ

การรักษาเกลื้อน

1.ยาแบบกิน

เหมาะสำหรับผู้ที่มีผื่นบริเวณกว้าง การใช้ยาในรูปแบบทาจึงไม่สะดวกระยะเวลาที่ใช้รักษาจะสั้นกว่าแบบทา แต่ผลข้างเคียงจากยาก้ย่อมมีมากกว่า ซึ่งผลข้างเคียงขึ้นจากชนิดของยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือผิวหนังขึ้นผื่น

2.ยาแบบทา

เหมาะสำหรับผู้ที่มีผื่นไม่มากแต่จะใช้เวลารักษา นานกว่ายาแบบกิน ต้องใช้ทุกวันติดต่อกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป

3.สบู่หรือแชมพู

ใช้ฟอกตัว หลังขั้นตอนการอาบน้ำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผื่นบริเวณกว้าง

4.สมุนไพร

สำหรับสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณในการรักษาโรคเกลื้อนเช่น ทองพันชั่ง กุ่มบก ข่า อัคคีทวารเป็นต้น สำหรับวิธีการใช้และระยะเวลาในการใช้ควรศึกษาจากตำรา หรือปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรไทย

Previous
Previous

Laser treatment for clogged pores

Next
Next

Seborrheic Dermatitis(โรคเซ็บเดิร์ม)