ขี้ไคล บอดี้การ์ด ร่างกาย
Skin Tips: ขี้ไคล... บอดี้การ์ดร่างกาย
การขัดผิวไม่ว่าจะด้วยสครับหรือใยบวบ แม้ว่าจะทำให้ผิวดูสว่าง นุ่มลื่นขึ้นก็จริง แต่ก็เป็นการทำร้ายผิวด้วยเช่นกัน คนส่วนใหญ่มักเชื่อว่าขี้ไคลเป็นสิ่งสกปรกน่ารังเกียจ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ขี้ไคลเป็นผิวหนังชั้นพิเศษที่ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องร่างกายของเราครับ
ผิวหนังของคนเราแบ่งเป็นชั้นๆ ชั้นนอกสุดคือ หนังกำพร้า ซึ่งในชั้นหนังกำพร้านี้ก็ยังแบ่งชั้นผิวหนังชั้นย่อยๆ ได้อีกหลายชั้น โดยชั้นที่อยู่ล่างสุดจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองและเลื่อนขึ้นไปจนถึงชั้นสูงสุดของหนังกำพร้า กลายเป็น Stratum corneum หรือที่เรารู้จักกันดีว่า “ขี้ไคล” นั่นเอง
ชั้นขี้ไคลไม่ได้เป็นหนังกำพร้าที่ถูกผลัดทิ้ง แต่เป็นส่วนหนึ่งของหนังกำพร้าที่มีโปรตีนของผนังเซลล์ที่เปรียบเสมือนอิฐสานกันไปมา และล้อมรอบด้วยไขมันแบบพิเศษที่เปรียบเสมือนปูน คล้ายการก่ออิฐถือปูนนั่นล่ะครับ ทำให้ชั้นขี้ไคลแข็งแรง
โดยเมื่อถึงเวลา 14 วันที่ผิวค่อยๆ เปลี่ยนแปลงและเลื่อนตัวจนไปอยู่ชั้นบนสุด ขี้ไคลก็จะหลุดออกไปได้ตามกลไกของธรรมชาติโดยไม่ต้องไปขัดถูใดๆ ครับ นอกจากนี้ ชั้นขี้ไคลยังเป็นตัวทำให้เกิดความชุ่มชื้นแก่ผิวตามธรรมชาติ ที่เรียกว่าNatural moisturizing factor และช่วยป้องกันไม่ให้นำระเหยออกจากร่างกาย ทำให้ผิวไม่แห้ง ความมันหรือความชุ่มชื้นนี้ยังช่วยดักจับสิ่งแปลกปลอมจากสภาพแวดล้อม เป็นการ์ดปกป้องไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวได้ง่ายอีกด้วย
ที่ขี้ไคลมีสีคล้ำ ไม่ใช่เพราะว่าเราสกปรกหรอกนะครับ เป็นเพราะในชั้นหนังกำพร้ามีเซลล์สร้างเม็ดสีเมลาโนไซท์ที่เป็นตัวสร้างสีผิวของเราซึ่ งเมื่อหนังกำพร้าเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเป็นขี้ไคล เม็ดสีที่เป็นส่วนหนึ่งของหนังกำพร้าเหล่านี้ก็เลยกลายไปเป็นขี้ไคลไปด้วย
เห็นไหมครับว่าขี้ไคลไม่ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์ เพื่อให้ชั้นขี้ไคลปกป้องร่างกายได้ดี ควรรับประทานอาหารให้เพียงพอและครบทุกหมู่ โดยเฉพาะวิตามินและเกลือแร่ อย่าไปขัดถูผิวหนังบ่อยๆ หรือแรงๆ และเพื่อไม่ให้ผิวแห้งควรหลีกเลี่ยงการแช่น้ำนานๆ การอบไอน้ำ รวมทั้งการทำสปาบ่อยๆ เพราะจะไปทำให้ Natural moisturizing factor หลุดออกไป หลังกิจกรรมเหล่านี้จึงควรทามอยซ์เจอร์ไรซ์เซอร์และควรดื่มน้ำเยอะๆ นะครับ